เมื่อเราเดินเข้าไปธนาคาร ตั้งใจจะทำเรื่องกู้เงินเพื่อ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ซื้อสินค้า ไม่ว่าเล็กหรือใหญ๋ จะมีใบให้กรอกคำขอตรวจสอบประวัติการเงิน หรือเราเรียกกันง่ายๆ ว่า ตรวจสอบข้อมูลเครดิตจากเครดิตบูโร ว่าสถานะผู้กู้เงินตอนนี้เป็นอย่างไร ติดแบล็คลิสต์หรือไม่ บางคนก็เข้าใจ ว่าคำสองคำนี้ มันคืออะไร แต่สำหรับอีกหลายกลับเข้าใจว่า เครดิตบูโร กับ แบล็คลิสต์ คืออย่างเดียวกันเราจึงกลัวจะติดแบล็คลิสต์ หากเคยมีประวัติการจ่ายหนี้ไม่ดี ความจริงแล้ว รายงานข้อมูลเครดิตจากเครดิตบูโรนั้นไม่ใช่รายงานแบล็คลิสต์ แต่อย่างใด แบล็กลิสต์ นั้นหมายถึง เรามีประวัติเสียในเรื่องการเงินจนถูกขึ้นบัญชีแบล็คลิสต์ไว้ ซึ่งหมายถึงการให้สถานภาพบุคคลเป็นภาพนิ่งภาพเดียว
..แต่ เครดิตบูโร นั้นเป็นการรายงานข้อมูลเครดิตตลอดช่วงระยะเวลาหนึ่งโดยจะแสดงประวัติการชำระสินเชื่อย้อนหลัง ไม่เกิน 24 เดือน ดังนั้น หากประวัติการชำระสินเชื่อในอดีตของเรา ไม่ดีนักเราต้องพยายาม หาทางชำระหนี้ให้ตรงตามเงื่อนไขกับสถาบันการเงิน ที่เราติดหนี้ไว้ เพื่อให้มีประวัติใหม่ที่ดูดีกว่าประวัติเดิม แต่ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงประวัติเดิมได้เว้นแต่เมื่อผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง เช่น ในปัจจุบัน เมื่อเราได้ชำระหนี้สินที่ค้างไว้กับสถาบันการเงินต่างๆ แล้ว ต้องผ่านไปแล้ว 36 เดือน หลังจากเราชำระเสร็จสิ้น ระบบจึงจะไม่โชว์สถานะการเงินนั้น ขอย้ำนะครับ หลังจากจ่ายหนี้ที่ค้างอยู่ทั้งหมดแล้ว บวกไปอีก 36 เดือน
เครดิตบูโร คืออะไร เครดิตบูโร (Credit Bureau)
หรือ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติคือบริษัทที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเครดิตจากสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก เมื่อมีสถาบันการเงินที่จะปล่อยสินเชื่อ เงินกู้ทั้งหลายหรือลูกค้าที่เป็นเจ้าของข้อมูลเอง ต้องการก็จะสามารถยื่นคำขอ รายงานข้อมูลเครดิต มาได้ซึ่งในรายงานนั้น จะประกอบด้วย ข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคุณสมบัติของลูกค้าที่ขอสินเชื่อ ประวัติการขอสินเชื่อประวัติการได้รับอนุมัติสินเชื่อ และ การชำระสินเชื่อรวมถึง ประวัติการชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยบัตรเครดิต เครดิตบูโรจะไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวกับ ทรัพย์สินส่วนตัวหรือ ข้อมูลบัญชีเงินฝาก ของบุคคลผู้นั้น จะรายงานเพียงข้อมูลทางด้านสินเชื่อเท่านั้น ส่วนในกรณี ที่เรายื่นเรื่องกู้ แล้วไม่ผ่าน หากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้แจ้งว่าเรามีประวัติการเงินที่ไม่ดี จากเครดิตบูโร เราสามารถขอดูประวัติการชำระสินเชื่อของเราจากเครดิตบูโรได้ โดยเสียค่าธรรมเนียมในการขอ 200 บาทเราจะได้ทราบว่า เรามีประวัติการชำระสินเชื่ออย่างไรและเราจะได้แก้ไขปรับปรุงประวัติการชำระสินเชื่อให้ดีในอนาคตได้ อย่างไรก็ดี การไม่ก่อหนี้สินนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแต่หากจำเป็นที่จะต้องก่อหนี้สิน ควรจะก่อหนี้แต่พอควรและตามกำลังที่เราจะผ่อนได้ เช่น ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ก็ขอให้ดูความสามารถในการผ่อนชำระของเราด้วย อย่าผ่อนบ้านหรือรถ เกินกำลังเราเด็ดขาด เพราะจะทำให้เราไม่สามารถผ่อนไหว จนต้องเสียเครดิต เสียดอกเบี้ย เบี้ยปรับที่แพงมาก และสุดท้าย อาจต้องขายบ้านหรือรถ นั้นไปหรือปล่อยให้เขามายึดบ้านหรือรถของเราไปหรือถูกฟ้องดำเนินคดีได้นะครับซึ่งจะทำให้เราเสียเครดิตอย่างมากทีเดียวพอถึงคราวจำเป็นที่เราจำเป็นต้องใช้เครดิตก็ทำให้เราติดปัญหากู้ไม่ผ่าน ไม่ได้รับอนุมัติ นั่นเอง
หรือ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติคือบริษัทที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเครดิตจากสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก เมื่อมีสถาบันการเงินที่จะปล่อยสินเชื่อ เงินกู้ทั้งหลายหรือลูกค้าที่เป็นเจ้าของข้อมูลเอง ต้องการก็จะสามารถยื่นคำขอ รายงานข้อมูลเครดิต มาได้ซึ่งในรายงานนั้น จะประกอบด้วย ข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคุณสมบัติของลูกค้าที่ขอสินเชื่อ ประวัติการขอสินเชื่อประวัติการได้รับอนุมัติสินเชื่อ และ การชำระสินเชื่อรวมถึง ประวัติการชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยบัตรเครดิต เครดิตบูโรจะไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวกับ ทรัพย์สินส่วนตัวหรือ ข้อมูลบัญชีเงินฝาก ของบุคคลผู้นั้น จะรายงานเพียงข้อมูลทางด้านสินเชื่อเท่านั้น ส่วนในกรณี ที่เรายื่นเรื่องกู้ แล้วไม่ผ่าน หากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้แจ้งว่าเรามีประวัติการเงินที่ไม่ดี จากเครดิตบูโร เราสามารถขอดูประวัติการชำระสินเชื่อของเราจากเครดิตบูโรได้ โดยเสียค่าธรรมเนียมในการขอ 200 บาทเราจะได้ทราบว่า เรามีประวัติการชำระสินเชื่ออย่างไรและเราจะได้แก้ไขปรับปรุงประวัติการชำระสินเชื่อให้ดีในอนาคตได้ อย่างไรก็ดี การไม่ก่อหนี้สินนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแต่หากจำเป็นที่จะต้องก่อหนี้สิน ควรจะก่อหนี้แต่พอควรและตามกำลังที่เราจะผ่อนได้ เช่น ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ก็ขอให้ดูความสามารถในการผ่อนชำระของเราด้วย อย่าผ่อนบ้านหรือรถ เกินกำลังเราเด็ดขาด เพราะจะทำให้เราไม่สามารถผ่อนไหว จนต้องเสียเครดิต เสียดอกเบี้ย เบี้ยปรับที่แพงมาก และสุดท้าย อาจต้องขายบ้านหรือรถ นั้นไปหรือปล่อยให้เขามายึดบ้านหรือรถของเราไปหรือถูกฟ้องดำเนินคดีได้นะครับซึ่งจะทำให้เราเสียเครดิตอย่างมากทีเดียวพอถึงคราวจำเป็นที่เราจำเป็นต้องใช้เครดิตก็ทำให้เราติดปัญหากู้ไม่ผ่าน ไม่ได้รับอนุมัติ นั่นเอง
แท็กซ์ :เครดิตบูโร และ แบล็คลิสต์, รู้จักแบล็คลิสต์และเครดิตบูโร, แบล็คลิสต์, เครดิตบูโร,ทำความเข้าใจแบล็คลิสต์กับเครดิตบูโร,ปัญหาแบล็คลิสต์,กู้เงิน,กู้เงินให้ผ่าน,ติดแบล็คลิสต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น