ติดแบล็คลิสต์หรือป่าว..จะตรวจสอบได้อย่างไร (สรุปมาให้อ่านอีกรอบ)

ติดแบล็คลิสต์หรือป่าว..จะตรวจสอบได้อย่างไร (สรุปมาให้อ่านอีกรอบ)

ติดแบล็คลิสต์หรือป่าว..จะตรวจสอบได้อย่างไร (สรุปมาให้อ่านอีกรอบ)


ติดแบล็คลิสต์หรือป่าว..จะตรวจสอบได้อย่างไร (สรุปมาให้อ่านอีกรอบ)
        ปัจจุบันการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินก่อนจะเริ่มลงมือทำธุรกิจถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ผู้ประกอบการทุกคนจะต้องเอาใจใส่และให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจาก เครดิต และสถานภาพทางการเงินของผู้ประกอบการนั้นสามารถนำไปใช้ต่อยอดในทางธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นการขอกู้เงิน หรือ ขอสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ ใช้เป็นหลักค้ำประกันธุรกิจ หรือแม้แต่เพื่อเป็นการแสดงสภาพคล่องให้ลูกค้าได้รับทราบ ซึ่งข้อมูลต่างๆที่ผู้ประกอบการต้องการทราบนั้นล้วนมีบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของ"บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ" ทั้งหมด
       "บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ" หรือ "เครดิตบูโร" มีหน้าที่จัดเก็บข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านทางบริการของธนาคารต่างๆไม่ว่าจะเป็นการใช้บัตรเครดิต การผ่อนชำระสินเชื่อ การผ่อนบ้านและรถยนต์ ทั้งยังเป็นผู้ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลการผ่อนชำระทั้งในส่วนของ บัตรเครดิต และ สินเชื่อต่างๆ ไว้อย่างละเอียด โดยหากเป็นบุคคลธรรมดาจะมีบันทึกไว้ไม่เกิน 3 ปี และ 5 ปีสำหรับนิติบุคคล ซึ่งนั่นหมายความว่าหากผู้ประกอบการเคยมีความผิดพลาดในเรื่องการค้างชำระหรือแม้แต่ผ่อนช้าในอดีตรับรองว่าชื่อของผู้ประกอบการจะต้องไปปรากฏเป็นแบล็คลิสต์อยู่ในเครดิตบูโรอย่างแน่นอน
หากมีรายชื่อปรากฎอยู่ในแบล็คลิสต์จริงชีวิตการทำธุรกิจของท่านจะต้องตกอยู่ในสภาพไม่ต่างอะไรกับการตายทั้งเป็นแน่นอน ดังนั้นผู้ประกอบการทุกคนจึงสมควรที่จะต้องตรวจสอบสถานะทางการเงินและเครดิตของตนกับทางเครดิตบูโรให้แน่ใจก่อนทุกๆครั้งเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในการติดแบล็คลิสต์อย่างไม่รู้สาเหตุ หรือถ้าหากมีชื่อติดอยู่ในบัญชีแบล็คลิสต์ริงจะได้รีบติดต่อเพื่อขอเข้าชำระเงินที่ติดค้างอยู่ในอดีตให้หมดไปเพื่อเป็นการเคลียร์แบล็คลิสต์ และประวัติทางการเงินให้ขาวสะอาดที่สุด ซึ่งวิธีการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของตนเองผ่านเครดิตบูโร ผู้ประกอบการจะต้องไปขอยื่นเรื่องด้วยตนเองที่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ส่วนบริหารข้อมูลผู้บริโภค ชั้น 10 อาคาร 2 ธนาคารอาคารสงเคราะห์(สำนักงานใหญ่) เลขที่ 63 ถนนพระรามเก้า เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320 โทรศัพท์ 02-643-1250 ซึ่งมีวิธีปฏิบัติที่สามารถกระทำได้ด้วยตนเอง ดังนี้

กรณีบุคคลธรรมดา
     กรอกแบบคำขอ และยื่นแบบฟอร์มพร้อมหลักฐานอันประกอบไปด้วย บัตรประชาชนพร้อมสำเนา, สำเนาทะเบียนบ้าน (เอกสารทุกชิ้นจะต้องเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องด้วย) และหลักฐานการเปลี่ยนแปลงชื่อ (ถ้ามี) ชำระค่าบริการ 100 บาท รอรับใบรายงานได้เลยภายในวันที่ยื่นคำขอ หรือยื่นความจำนงให้จัดส่งมาทางไปรษณีย์ลงทะเบียนก็สามารถทำได้

กรณีนิติบุคคล
      กรอกแบบคำขอ และยื่นแบบฟอร์มพร้อมหลักฐานอันประกอบไปด้วย สำเนารับรองนิติบุคคล ที่รับรองไว้ไม่เกิน 6 เดือน, สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจในกรณีที่กรรมการผู้มีอำนาจมารับด้วยตนเอง หรือถ้ามอบหมายอำนาจให้ผู้อื่นมารับเอกสารแทนจะต้องมีหนังสือมอบอำนาจอย่างถูกต้องพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจเข้ามาเพิ่มด้วย (เอกสารทุกชิ้นจะต้องเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องด้วย) ชำระค่าบริการ 100 บาท รอรับใบรายงานได้เลยภายในวันที่ยื่นคำขอ หรือยื่นความจำนงให้จัดส่งมาทางไปรษณีย์ลงทะเบียนก็สามารถทำได้

     เรื่องของเครดิตและความน่าเชื่อถือทางการเงินนั้นจัดเป็นพื้นฐานความเชื่อมั่นอันดับแรกๆที่ลูกค้าทุกคนมักจะสนใจและเรียกร้องในส่วนนี้มากเป็นพิเศษจากคู่ค้าทางธุรกิจของตน ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองและธุรกิจมีประวัติที่ด่างพร้อยและย่ำแย่ทางการเงินเกิดขึ้นเป็นอันขาด เพราะหากเกิดขึ้นแล้วมันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยที่จะเอานำชื่อออกมาจากบัญชีแบล็คลิสต์ซึ่งอย่างน้อยจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ปีเป็นอย่างต่ำ ซึ่งธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงไม่สามารถรอได้นานขนาดนั้น ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องบริหารการเงินทั้งของตนและของบริษัทอย่างดีที่สุดเพื่อเป็นรักษาไว้ซึ่งชื่อเสียงในทางที่ดี ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมการทำธุรกิจของคุณในอนาคตด้วย


แท็กซ์: ตรวจสอบเครดิตบูโร, ตรวจสอบติดแบล็คลิสต์, แบล็คลิสต์,เครดิตบูโร,ติดแบล็คลิสต์,เช็คเครดิตบูโร,เครีย์แบล็คลิสต์,แบล็คลิสต์,เครดิตบูโร,บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น